แท่งหินสมมาตรมหัศจรรย์แห่ง Giant’s Causeway ตำนานทางเดินยักษ์

Giant-Causeway-news-site

โลกของเราใบนี้ยังมีความน่ามหัศจรรย์อีกมากมาย บางเรื่องมีความแปลกทั้งในทางวิทยาศาสตร์ และความเชื่อที่เกี่ยวข้อง อย่างเช่นสถานที่แนะนำของเราวันนี้ บอกเลยว่าทั้งตำนานก็น่าสนใจ หรือ หากพูดกันจากเรื่องของวิทยาศาสตร์ที่ทำให้เกิดเรื่องราวดังกล่าวก็น่าสนใจเหมือนกัน มันคือ Giant’s Causeway ตำนานทางเดินยักษ์ ว่าแล้วก็ไปกันเลย

Giant’s Causeway ตำนานทางเดินยักษ์ คืออะไร

Giant’s Causeway ตำนานทางเดินยักษ์ พิกัดอยู่ที่ประเทศไอร์แลนด์ ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอย่างมาก สภาพพื้นที่ก็คือเป็นเนินภูเขาหินที่ตั้งยื่นลงไปในทะเล ฝั่งดูอาจจะไม่แปลกเท่าไร แต่หากบอกว่าเนินหินเหล่านั้น ทั้งหมดเป็นหินบะซอลต์มากกว่า 40,000 ก้อน วางเรียงรายอย่างเป็นระเบียบ แถมชิดติดกันจนไม่มีช่องว่างระหว่างหินเลย แบบนี้เริ่มน่าสนใจ ยังไม่หมด หินทุกก้อนมีลักษณะเป็นเรขาคณิตทุกก้อนด้วย เป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์ในอย่างยิ่ง

ตำนานทางเดินยักษ์

สำหรับเรื่องของ หินบะซอลต์ทั้งหมดนั้น ได้มีตำนานเล่าขานกันด้วย ต้องย้อนกลับไปในอดีตยุคที่ยักษ์ยังปกครองพื้นที่แถบนี้อยู่ตอนนั้นมียักษ์ตัวหนึ่งชื่อว่า ฟินน์ แม็คคูล ยักษ์ตัวนี้มีอิทธิฤทธิ์มากพอตัวทีเดียว ด้วยความเก่งกาจทำให้มันสามารถปราบปรามยักษ์ในบริเวณพื้นที่ของตัวเองได้หมด จนมันเริ่มมองหาเส้นทางท้าทายให้ยิ่งใหญ่มากขึ้นนั่นก็คือ การข้ามทะเลไปรบกับยักษ์อีกฝั่งหนึ่ง แล้วด้วยความคึกคะนองของ ฟินน์ ทำให้วันหนึ่งมันได้ตะโกนท้าทายข้ามทะเลไปยังอีกฝั่ง ปรากฏว่ามียักษ์ตนหนึ่งได้ยินก็คิดอยากจะทดสอบความแข็งแกร่งดู

news-Giant-Causeway-site

ยักษ์ตัวนี้ชื่อว่า เบนันดอนเนอร์ มันจึงเลือกี่จะสร้างเส้นทางจากฝั่งตัวเอง ไปหา ฟินน์ แม็คคลู ด้วยการเอาเสาหินปักลงไปบนทะเลทีละแท่ง เพื่อสร้างเป็นทางเดิน การกระทำของเบนันดอนเนอร์ทำต่อเนื่องไปเรื่อยๆ จนกระทั่ง ฟินน์ แม็คคลู มองเห็นตัว เบนันดอนเนอร์ ปรากฏว่าฟินน์ดูกลายเป็นเด็กน้อยไปเลยเมื่อเทียบกับ เบนันดอนเนอร์ นั่นทำให้ ฟินน์ กลัวอย่างมาก จึงต้องรีบกลับไปหาภรรยาเพื่อหาทางแก้ไขเพราะหากสู้กันมันต้องตายอย่างแน่นอน ฝ่ายภรรยาก็กลัวว่าจะเสียสามีไป จึงออกอุบายว่าให้ ฟินน์ แต่งตัวเป็นเด็กทารก ไปนอนผูกเปลที่ชายฝั่ง แม้ฟินน์จะงง ไม่อยากทำแต่ก็ขัดไม่ได้ จึงทำตามอุบายดังกล่าว เมื่อ เบนันดอนเนอร์ มาถึงมองเห็น ฟินน์ ที่ปลอมตัวเป็นเด็กทารก ก็ทำให้เกิดความคิดว่าหากเป็นเด็กทารกตัวยังโตขนาดนี้ แสดงว่ายักษ์ที่ตะโกนท้าทายต้องตัวใหญ่มากกว่านี้แน่นอน ว่าแล้ว เบนันดอนเนอร์ ก็เลยรีบจ้ำอ้าววิ่งหนีกลับทางเดิมไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับถอนแท่งหินบางส่วนออกไปด้วยเพื่อป้องกันไม่ให้ยักษ์ตามมาได้

แนวคิดทางวิทยาศาสตร์

นั่นก็ตำนาน แต่เรื่องจริงก็มีความสนใจด้วยเหมือนกัน หินบะซอลต์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นฝีมือของธรรมชาติล้วนๆ เลย นักวิทยาศาสตร์บอกว่าหินเหล่านี้เกิดจากการเย็นตัวของลาวาบะซอลต์ ที่ปะทุขึ้นมาจากใต้โลก เมื่องมันเย็นตัวลงจึงทำให้เกิดหินเป็นรูปรังผึ้ง ซึ่งอาจจะเป็นรูป 3 เหลี่ยม หรือมากกวานั้นก็ได้ จึงเป็นที่มาของ Giant’s Causeway ตำนานทางเดินยักษ์